ต้องยอมรับว่าเกิดขึ้นแล้ว สำหรับสังคมที่มีแนวโน้มในการพูดคุยกันน้อยลงเรื่อยๆ แต่กลับก้มหน้าก้มตาจดจ่ออยู่กับมือถือของตนเองได้ทั้งวัน มือถือจึงต้องอยู่ใกล้ตัวอยู่ตลอดเวลา ไม่เว้นแม้แต่ช่วงเข้าห้องน้ำ หรือช่วงนอน
โทรศัพท์มือถือ เป็นอุปกรณ์เช่นเดียวกับเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด ที่จะมีการแผ่รังสีออกมาขณะเครื่องกำลังใช้งาน ซึ่งอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ เรายังเพียงยืนอยู่ใกล้ๆ หรืออยู่ในรัศมีนั้นๆ แต่สำหรับมือถือ เราต้องแนบกับหู อยู่ใกล้สมองของเรา หรือถือติดอยู่กับตัวในขณะใช้ รังสีนี้จะมีปริมาณมากขึ้นในขณะใช้ แต่จะหยุดแผ่รังสีเมื่อมีการปิดเครื่อง
รังสีจากโทรศัพท์มือถือ
รังสีจากโทรศัพท์มือถือ เป็นรังสีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า หรือ รังสี อาร์เอฟ ซึ่งอาจทำให้ดีเอ็นเอของเซลล์เกิดบาดเจ็บเสียหาย โดยไม่มีการแตกตัวของดีเอ็นเอเป็นประจุลบและประจุบวก ซึ่งเซลล์จะบาดเจ็บมากหรือน้อย ขึ้นกับปริมาณรังสีที่เซลล์ได้รับ จัดเป็นรังสีอยู่ในประเภทเดียวกับรังสีคลื่นวิทยุ รังสีจากความร้อน รังสีจากแสงแดด และรังสีจากเตาไมโครเวฟ
ผลของรังสีต่อร่างกาย
แม้จะยังไม่เคยมีการยืนยันว่าจะเป็นตัวการโดยตรงทำให้เกิดโรคดังต่อไปนี้ แต่ก็มีความเสี่ยงที่จะเป็นได้อย่างมาก โดยโรคที่อาจจะเป็นได้ มีดังนี้
- เซลล์ที่บาดเจ็บ อาจกลายเป็นเซลล์มะเร็งได้เช่น มะเร็งตาเมลาโนมา เป็นต้น
- อาจเกิดเนื้องอกต่างๆ ได้ เช่น เนื้องอกประสารทหู เนื้องอกประสาทตา เนื้องอกสมอง เนื้องอกต่อมน้ำลายบริเวณหน้าหู เป็นต้น
- อาจเกิดต้อกระจกได้
- ปวด มึน งงศีรษะ
- อ่อนเพลีย นอนไม่หลับ
- มีอาการใจสั่น
ในวัยรุ่น และวัยทำงาน เป็นวัยที่มีกำลังเรี่ยวแรง มีความฝันมากมาย จึงมีการดำเ
ต้องยอมรับว่าเกิดขึ้นแล้ว สำหรับสังคมที่มีแนวโน้มในการพูดคุยกันน้อยลงเรื่อยๆ แต่กลับก้มหน้าก้มตาจดจ่
สาวๆ ที่มีรูปร่างดูไม่สมส่วน หรือดูอวบขึ้น คงมีความกังวลใจในรูปร่างของตนเองอยู
ร่างกายของคนเรา ต้องการสารอาหารหลากหลายชนิดอย่างครบถ้วน เช่น โปรตีน คาร์โบไฮเดรต สังกะสี แมกนีเซียม เป็
ในกิจวัตรประจำวันของบรรดาสาวๆ ที่ต้องนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานวันละ 7-8 ชั่วโมง หรือเป็นสา
โรคกรดไหลย้อน เป็นภาวะที่กรดหรือน้ำย่อยจากกระเพาะอาหารมีความเข้มข้นสูงไหลย้อนขึ้นมาบริเวณหลอดอาหาร ซ
